วิธีรักษาอาการคลื่นไส้ที่บ้าน? 10 วิธีการที่นำเสนอโซลูชั่นขั้นสุดท้าย

อาการคลื่นไส้มักเกิดขึ้นเป็นอาการของความรู้สึกไม่สบายและส่งผลเสียต่อชีวิตประจำวันของบุคคล อาจมีอาการต่าง ๆ เกิดขึ้นพร้อมกับอาการคลื่นไส้กะทันหันทำให้ทำกิจกรรมประจำวันได้ยาก เว้นแต่จะมีเหตุผลทางการแพทย์ อาการคลื่นไส้มักจะบรรเทาลงได้ด้วยวิธีการง่ายๆ ไม่กี่วิธีที่คุณสามารถทำได้ที่บ้าน แล้วจะบรรเทาอาการคลื่นไส้ที่บ้านได้อย่างไร? ในบทความนี้ คุณจะพบวิธีแก้ปัญหาแบบธรรมชาติเพื่อบรรเทาอาการคลื่นไส้ 

อาการคลื่นไส้เกิดจากอะไร?

อาการคลื่นไส้เป็นอาการไม่สบายที่หลายๆ คนประสบเป็นครั้งคราว มักเป็นอาการที่บ่งบอกว่าท้องไส้ปั่นป่วนและมีปัญหาในกระเพาะอาหาร แล้วอะไรทำให้เกิดอาการคลื่นไส้? ต่อไปนี้คือสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดของอาการคลื่นไส้...

  1. ปัญหาทางเดินอาหาร: ปัญหาเกี่ยวกับระบบย่อยอาหารอาจทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ได้ ปัญหาเหล่านี้มักเกิดจากสภาวะต่างๆ เช่น กรดในกระเพาะอาหารไหลย้อนเข้าไปในหลอดอาหาร แผลในกระเพาะอาหาร โรคกระเพาะ หรือโรคกรดไหลย้อน ปัญหาระบบทางเดินอาหารเป็นสาเหตุหนึ่งของอาการคลื่นไส้ที่พบบ่อยที่สุด
  2. ไวรัสหรือการติดเชื้อ: การติดเชื้อไวรัสเป็นปัจจัยอื่นที่ทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ การติดเชื้อเหล่านี้มักเกิดร่วมกับการอาเจียนและท้องเสียในช่วงฤดูหนาว การติดเชื้อ เช่น โรตาไวรัสและโนโรไวรัสเป็นสาเหตุของอาการคลื่นไส้ที่พบบ่อย
  3. การตั้งครรภ์: การตั้งครรภ์เป็นช่วงเวลาที่มีอาการคลื่นไส้บ่อยที่สุด โดยเฉพาะในช่วงสามเดือนแรกของการตั้งครรภ์ มักมีอาการคลื่นไส้เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ภาวะนี้เรียกอีกอย่างว่า "แพ้ท้อง" และมักจะลดลงเมื่อการตั้งครรภ์ดำเนินไป
  4. ความเครียดและความตึงเครียด: ความเครียดทางจิตใจและอารมณ์บางครั้งอาจทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ได้ การหลั่งฮอร์โมนความเครียดทำให้กรดในกระเพาะเพิ่มขึ้น ทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ ความวิตกกังวล ซึมเศร้า หรือปัญหาทางจิตอื่นๆ อาจทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ได้
  5. พฤติกรรมการกิน: การรับประทานอาหารอย่างรวดเร็ว การบริโภคอาหารที่มีไขมันหรือเผ็ดมากเกินไป และการใช้แอลกอฮอล์หรือคาเฟอีนมากเกินไปอาจทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ได้ การกระตุ้นกระเพาะอาหารมากเกินไปหรือไม่พร้อมสำหรับการย่อยอาหารอาจทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ได้
  6. อาหารเป็นพิษ: การบริโภคอาหารที่เน่าเสียหรือปนเปื้อนอาจทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ได้   
  7. ผลข้างเคียงของยา: ยาหลายชนิดอาจทำให้เกิดผลข้างเคียง เช่น อาการคลื่นไส้ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยาใดๆ   
  8. ไมเกรน: อาการไมเกรน ในระหว่างการโจมตี หลายคนจะมีอาการคลื่นไส้   
  9. อาการเจ็บป่วยจากการเดินทาง: เมื่อเดินทางโดยรถยนต์หรือล่องเรือ จะมีอาการคลื่นไส้จากการเคลื่อนไหวเป็นเรื่องปกติ      

อาการคลื่นไส้อาจแตกต่างกันไปในแต่ละคน และบางครั้งอาจเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรง หากคลื่นไส้ต่อเนื่องเป็นเวลานานหรือมีอาการอื่นๆ เช่น อาเจียนมากเกินไป มีไข้ ปวดท้องรุนแรง หรือมีเลือดออก ควรปรึกษาแพทย์โดยเด็ดขาด

  วิธีทำไดเอทพุดดิ้ง สูตรอาหารพุดดิ้ง
วิธีบรรเทาอาการคลื่นไส้ที่บ้าน
วิธีบรรเทาอาการคลื่นไส้ที่บ้าน?

วิธีรักษาอาการคลื่นไส้ที่บ้าน?

เราสามารถบรรเทาและบรรเทาอาการคลื่นไส้ด้วยวิธีธรรมชาติและทำเองได้ที่บ้าน คำแนะนำบางส่วนที่สามารถช่วยบรรเทาอาการคลื่นไส้ได้ตามธรรมชาติมีดังนี้

1. ดื่มชาขิง

ขิงเป็นส่วนผสมที่ใช้กันทั่วไปบรรเทาอาการคลื่นไส้ เพิ่มขิงขูดสดหนึ่งช้อนชาลงในน้ำเดือดและปล่อยให้เดือดประมาณ 5-10 นาที จากนั้นดื่มชานี้ช้าๆ คุณจะรู้สึกว่าอาการคลื่นไส้คลี่คลายลง

2. ดื่มชามินต์

Naneเป็นสมุนไพรที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันอาการคลื่นไส้และทำให้ระบบย่อยอาหารสงบลง คุณสามารถเตรียมชาได้โดยเติมใบสะระแหน่สดลงในน้ำเดือด การดื่มชามินต์สักแก้วจะช่วยบรรเทาอาการคลื่นไส้ได้ คุณยังสามารถเคี้ยวใบสะระแหน่สดสองสามใบก็ได้

3.ดื่มน้ำมะนาว

มะนาวบรรเทาอาการคลื่นไส้ด้วยคุณสมบัติเป็นกรด บีบมะนาว 2-3 หยดลงในแก้วน้ำแล้วดื่มช้าๆ กลิ่นหอมสดชื่นและโครงสร้างที่เป็นกรดของมะนาวจะช่วยบรรเทาอาการคลื่นไส้ได้

4.สำหรับน้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ล

น้ำส้มสายชูหมักแอปเปิ้ลช่วยปรับสมดุลกรดในกระเพาะอาหารและลดอาการคลื่นไส้ ผสมน้ำส้มสายชูหมักแอปเปิ้ลหนึ่งช้อนโต๊ะกับน้ำหนึ่งแก้วแล้วดื่มช้าๆ

5. ดื่มชาสมุนไพรเพื่อการผ่อนคลาย

ชาสมุนไพร เช่น คาโมมายล์ เลมอนบาล์ม และยี่หร่า ช่วยผ่อนคลายระบบย่อยอาหารและบรรเทาอาการคลื่นไส้ ชงชาสมุนไพรที่คุณชื่นชอบ ดื่มร้อนหรือเย็น

6. ดื่มน้ำปริมาณมาก

ภาวะขาดน้ำจะทำให้มีอาการคลื่นไส้เพิ่มขึ้น ดังนั้นการดื่มน้ำปริมาณมากจึงเป็นสิ่งสำคัญ คุณสามารถให้ความชุ่มชื้นแก่ร่างกายและลดอาการคลื่นไส้ได้ด้วยการจิบน้ำเล็กๆ น้อยๆ

7. กินเพรทเซลหรือขนมปัง

คุณสามารถกินแครกเกอร์เกลือหรือขนมปังเพื่อบรรเทาอาการคลื่นไส้ได้ อาหารเหล่านี้ทำให้กระเพาะอาหารของคุณสงบและลดอาการคลื่นไส้

8. สร้างสภาพแวดล้อมที่ผ่อนคลาย

อาการคลื่นไส้อาจเกิดจากปัจจัยทางอารมณ์ เช่น ความเครียดและความตึงเครียด การสร้างสภาพแวดล้อมที่สบายและสงบจะทำให้ระบบประสาทสงบและบรรเทาอาการคลื่นไส้ การหลับตาและหายใจลึกๆ ยังช่วยให้คุณผ่อนคลายอีกด้วย

9. รับประทานช้าๆ และรับประทานในปริมาณน้อยๆ

การกินมากเกินไปหรือกินเร็วเกินไปจะทำให้ระบบย่อยอาหารเกิดความเครียดและอาจทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ได้ รับประทานอาหารช้าๆ และระวังการรับประทานอาหารมื้อเล็กๆ ด้วยวิธีนี้ระบบย่อยอาหารจะทำงานได้ง่ายขึ้นและอาการคลื่นไส้จะลดลง

10) รับประทานอาหารเสริมวิตามินบี 6

วิตามิน B6 ขอแนะนำสำหรับสตรีมีครรภ์เป็นวิตามินทดแทนแทนการใช้ยาแก้คลื่นไส้

อาการคลื่นไส้มักบรรเทาลงด้วยวิธีธรรมชาติที่เราสามารถทำได้ที่บ้าน อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่มีอาการคลื่นไส้อย่างต่อเนื่องและรุนแรง ควรปรึกษาแพทย์

อาหารที่ดีสำหรับอาการคลื่นไส้

โภชนาการมีความสำคัญอย่างยิ่งในการต่อสู้กับอาการคลื่นไส้ แม้ว่าอาหารบางชนิดจะทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ แต่ก็มีอาหารที่ช่วยแก้อาการคลื่นไส้ได้เช่นกัน อาหารที่เหมาะกับอาการคลื่นไส้มีดังนี้:

  1. ขิง: ขิงซึ่งใช้รักษาอาการผิดปกติของกระเพาะอาหารมานานหลายศตวรรษ มีประสิทธิภาพในการบรรเทาอาการคลื่นไส้ คุณสามารถชงชาขิง เพิ่มในมื้ออาหาร หรือรับประทานขิงสดก็ได้
  2. สะระแหน่: สะระแหน่เป็นสมุนไพรที่มีประสิทธิผลในการลดอาการคลื่นไส้ คุณสามารถลองชามินต์หรือเติมใบมินต์สดลงในอาหารได้
  3. โยเกิร์ต: โยเกิร์ตซึ่งมีคุณสมบัติโปรไบโอติกช่วยบรรเทาอาการคลื่นไส้ อย่างไรก็ตามคุณควรเลือกโยเกิร์ตที่ไม่มีน้ำตาลหรือไขมัน
  4. อาหารแห้ง: เมื่อคุณมีอาการคลื่นไส้ คุณควรหลีกเลี่ยงการบริโภคอาหารหนักและอาหารรสเผ็ด คุณสามารถเลือกทานอาหารเบาๆ เช่น แครกเกอร์แห้ง บิสกิต หรือขนมปังแทนได้
  5. แอปเปิ้ล: Elmaเป็นผลไม้แก้อาการคลื่นไส้ได้ดี มีโครงสร้างเป็นเส้นและมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว การกินแอปเปิ้ลหลังอาหารช่วยให้กระเพาะอาหารสงบลง
  6. ข้าวต้ม: โจ๊กที่ย่อยง่ายมีฤทธิ์บรรเทาอาการคลื่นไส้ได้ คุณสามารถปรุงโจ๊กข้าวง่ายๆ ด้วยอบเชยหรือขิงซึ่งมีคุณสมบัติบรรเทาอาการท้องได้
  7. บลูเบอร์รี่: อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ บลูเบอร์รี่เป็นผลไม้ที่มีผลดีต่อระบบย่อยอาหาร การบริโภคบลูเบอร์รี่สดจะช่วยลดอาการคลื่นไส้
  8. เพอร์เลน: อร่อยและมีคุณค่าทางโภชนาการ purslaneมีฤทธิ์ลดอาการคลื่นไส้ได้ คุณสามารถใช้ purslane ในสลัดหรือสมูทตี้ได้
  9. โหระพา: กลิ่นของมันมีผลบรรเทาอาการคลื่นไส้ โหระพามันเป็นพืชที่มีคุณค่าทางโภชนาการ คุณสามารถบรรเทาอาการคลื่นไส้ได้ด้วยการดื่มชาใบโหระพา
  ประโยชน์ของแป้งข้าวเจ้าและคุณค่าทางโภชนาการของแป้งข้าวเจ้า

เนื่องจากระบบย่อยอาหารของแต่ละคนแตกต่างกัน คุณจึงสามารถทดลองรับประทานอาหารที่เหมาะกับความต้องการส่วนบุคคลเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด 

ชาที่ดีต่ออาการคลื่นไส้

เครื่องดื่มบางชนิด เช่น ชาสมุนไพร ช่วยบรรเทาอาการคลื่นไส้และบรรเทาระบบย่อยอาหาร มาดูชาที่แก้อาการคลื่นไส้กันดีกว่า

  1. ชามิ้นท์

ชาเปปเปอร์มินท์เป็นหนึ่งในชาที่ใช้กันมากที่สุดเพื่อบรรเทาอาการคลื่นไส้ พืชมีคุณสมบัติต้านอาการกระสับกระส่ายซึ่งมีผลผ่อนคลายต่อระบบย่อยอาหาร ช่วยลดอาการคลื่นไส้โดยการผ่อนคลายกล้ามเนื้อหน้าท้อง คุณสามารถบรรเทาอาการคลื่นไส้ได้ด้วยการดื่มชามินต์ร้อนสักแก้ว

  1. ชาขิง

ขิงเป็นยาธรรมชาติที่มีประสิทธิภาพในการบรรเทาอาการคลื่นไส้ ชาขิงซึ่งมีคุณสมบัติต้านการอักเสบและต่อต้านอาการอาเจียน ช่วยให้ระบบย่อยอาหารสงบลงและลดอาการคลื่นไส้ คุณสามารถชงชาขิงได้ง่ายๆ โดยเติมขิงสดหั่นเป็นชิ้นลงในน้ำร้อนหรือใช้ถุงชาสำเร็จรูป

  1. ชามะนาว

ชามะนาวเป็นวิธีแก้อาการคลื่นไส้แบบธรรมชาติ คุณสมบัติต้านจุลชีพของมะนาวช่วยป้องกันการติดเชื้อในกระเพาะอาหารและลดอาการคลื่นไส้ คุณสามารถเตรียมชามะนาวได้โดยเติมน้ำมะนาวสดลงในแก้วน้ำร้อนหรือตกแต่งด้วยมะนาวฝาน

  1. ชาดอกคาโมไมล์

ชาคาโมไมล์เป็นวิธีการรักษาอาการคลื่นไส้ตามธรรมชาติยอดนิยม เพราะคาโมมายล์มีคุณสมบัติต้านการอักเสบและต้านอาการกระสับกระส่ายที่ช่วยบรรเทากระเพาะอาหารและผ่อนคลายระบบย่อยอาหาร การดื่มชาคาโมมายล์สักแก้วจะช่วยบรรเทาอาการคลื่นไส้และช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย

  1. ชายี่หร่า
  อะไรเป็นสาเหตุของการขาดวิตามินและแร่ธาตุทั่วไป อาการคืออะไร?

เมล็ดยี่หร่ามีฟลาโวนอยด์ น้ำมันหอมระเหย และเส้นใยที่มีฤทธิ์ผ่อนคลายต่อระบบย่อยอาหาร เพราะ, ชายี่หร่า เป็นทางเลือกที่ได้ผลในการบรรเทาอาการคลื่นไส้ คุณสามารถลดอาการคลื่นไส้ได้ด้วยการดื่มชายี่หร่าร้อนสักแก้ว

อาหารที่ทำให้เกิดอาการคลื่นไส้

โภชนาการที่เหมาะสมและการบริโภคอาหารที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ที่มีอาการคลื่นไส้ แล้วเราควรหลีกเลี่ยงอาหารชนิดไหนเมื่อมีอาการคลื่นไส้? อาหารที่ไม่ควรรับประทานในกรณีที่มีอาการคลื่นไส้มีดังนี้:

  1. อาหารที่มีไขมันและหนัก: อาหารที่มีไขมันจะทำให้คลื่นไส้และทำให้ย่อยอาหารได้ยาก ควรหลีกเลี่ยงอาหารทอด ผลิตภัณฑ์ฟาสต์ฟู้ด และอาหารที่มีไขมันมากเกินไป
  2. อาหารรสเผ็ด: อาหารรสเผ็ดอาจทำให้กรดในกระเพาะเพิ่มขึ้นซึ่งกระตุ้นให้เกิดอาการคลื่นไส้ คุณควรหลีกเลี่ยงการบริโภคอาหาร เช่น ซอสเผ็ด น้ำจิ้มรสเผ็ด และของขบเคี้ยวรสเผ็ด
  3. กาแฟและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์: คาเฟอีน เครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของสารดังกล่าวจะทำให้ระคายเคืองและอาจมีอาการคลื่นไส้เพิ่มขึ้น ในทำนองเดียวกัน เครื่องดื่มแอลกอฮอล์อาจทำให้กระเพาะระคายเคืองและทำให้คลื่นไส้รุนแรงขึ้น ด้วยเหตุนี้คุณจึงควรอยู่ห่างจากกาแฟและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้มากที่สุด
  4. เครื่องดื่มที่มีน้ำตาลและเป็นกรด: เครื่องดื่มที่มีน้ำตาลและเป็นกรดอาจทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ได้ เครื่องดื่มอัดลม, น้ำผลไม้, เครื่องดื่มบำรุงกำลัง ฯลฯ สิ่งสำคัญคือต้องหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่เป็นกรดและมีน้ำตาลสูง
  5. ช็อคโกแลต: สำหรับบางคน ช็อกโกแลตอาจทำให้เกิดอาการคลื่นไส้และเสียดท้องได้ ดังนั้นผู้ที่มีอาการคลื่นไส้ควรงดช็อกโกแลตหรือจำกัดปริมาณ
  6. ผลไม้บางชนิด: สำหรับบางคนที่มีอาการคลื่นไส้ ผลไม้ที่มีความเป็นกรดสูง เช่น กล้วยและมะเขือเทศอาจเป็นปัญหาได้ คุณสามารถหลีกเลี่ยงการบริโภคผลไม้เหล่านี้ได้ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัวของคุณ
  7. กลั่นน้ำตาล: อาหารที่อุดมไปด้วยน้ำตาลทรายขาวจะไม่ย่อยง่าย อาจทำให้เกิดอาการเสียดท้องและคลื่นไส้ในที่สุด

เป็นผลให้;

มีหลายวิธีในการบรรเทาอาการคลื่นไส้ที่บ้าน วิธีการเหล่านี้รวมถึงวิธีแก้ปัญหาตามธรรมชาติ เช่น การดื่มน้ำมะนาว การรับประทานแครกเกอร์หรือบิสกิตรสเค็ม การดื่มชามินต์ และการบริโภคขิงสด นอกจากนี้ยังจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่มีอาการคลื่นไส้หากรับประทานอาหารเบาและรับประทานช้าๆ ในปริมาณเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม หากยังมีอาการคลื่นไส้อยู่หรือเกิดปัญหาอื่นๆ จำเป็นต้องปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ โปรดจำไว้ว่า เนื่องจากร่างกายทุกคนแตกต่างกัน คุณจึงควรพยายามค้นหาวิธีที่ดีที่สุดสำหรับคุณ 

แหล่งที่มา; 1, 2, 3, 4, 5, 6

แชร์โพสต์!!!

เขียนความเห็น

ที่อยู่อีเมลของคุณจะไม่ถูกเผยแพร่ ฟิลด์ที่จำเป็น * ช่องที่ต้องการถูกทำเครื่องหมายด้วย